ระวังเป็นเหยื่อ บ็อตเน็ต

ชาวไทยที่อยู่ต่างแดนแล้วต้องการโทรศัพท์หาครอบครัวช่วงสงกรานต์ โปรดระวัง ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยออกมาประกาศเตือนว่า ช่องโหว่ในระบบให้บริการโทรศัพท์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีความเสี่ยงทำ ให้พีซีของคุณกลายเป็นบ็อตเน็ต หรือคอมพิวเตอร์ผีดิบที่แฮกเกอร์สามารถสั่งให้ไปขโมยข้อมูลใดๆก็ได้ตามชอบใจ งานนี้ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าแฮกเกอร์อาจใช้ช่องโหว่นี้ในการขโมยข้อมูลชื่อและ เบอร์โทรศัพท์ มาใช้ประโยชน์ในทางไม่ชอบได้

การสร้างเครือข่ายสำหรับเจาะระบบด้วยบ็อตเน็ต (botnet) นั้นเป็นเรื่องที่ถูกประกาศเตือนภัยมานานหลายปีต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การเตือนภัยเรื่องโปรแกรมโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตครั้งนี้ถูกประกาศโดยนัก วิจัยของบริษัทซีเคียวไซเอนซ์ (Secure Science) ซึ่งตรวจพบการโทรศัพท์โดยไม่ได้รับอนุญาตบนโปรแกรมยอดฮิตอย่างสไกป์ (Skype) และกูเกิลวอยซ์ (Google Voice)

แลนส์ เจมส์ (Lance James) ผู้ร่วมก่อตั้งซีเคียวไซเอนซ์ ระบุว่านักขโมยข้อมูลสามารถบรรลุเป้าหมายได้โดยใช้เทคนิกพิเศษที่จะทำให้แอ คเคาท์สมาชิกบริการโทรศัพท์ออนไลน์เหล่านี้ยิงทราฟฟิกเป็นการโทรศัพท์หลาย พันครั้งโดยอัตโนมัติ ใช้ประโยชน์การโทรแบบเสมือนซึ่งนักเจาะระบบสามารถตั้งค่าอัตโนมัติให้ระบบ ส่งข้อความไปล่อลวงข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญอื่นๆอีก เช่น การส่งข้อความลวงให้ผู้รับสายเผลอบอกข้อมูลบัตรเครดิตในลักษณะคล้ายฟิชชิ่ง

เจมส์ มองว่านี่คือการจู่โจมตลาดระบบโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตครั้งร้ายแรง โดยฟังก์ชันการทำงานที่ผู้ให้บริการอย่างสไกป์และกูเกิลออกแบบให้ผู้ใช้ สะดวกสบายในการเพิ่มรายชื่อเบอร์โทรศัพท์ กลับอำนวยความสะดวกในการรวบรวมข้อมูลให้กับนักเจาะระบบด้วย

ก่อนหน้านี้ มีการตรวจพบว่านักเจาะระบบเคยพยายามฉ้อโกงด้วยการแฝงตัวเข้าไปโทรศัพท์จากแอ คเคาท์ใดก็ได้ที่ต้องการ สร้างความเสียหายให้กับสมาชิกซึ่งต้องชำระเงินแทนให้โดยไม่รู้เรื่องมาก่อน แม้กรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นกับบริการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตของสไกป์และกู เกิลจะใช้เทคนิกที่ต่างกัน แต่ทั้งสองภัยคุกคามนี้ล้วนมีประสิทธิภาพด้วยกันทั้งคู่

ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่า ระยะเวลาที่คนรักบริการโทร.ผ่านเน็ตจะกลายเป็นเหยื่อบ็อตเน็ตนั้นอาจสั้น เพียง 30 นาทีหลังการล็อกอินเข้าใช้บริการเท่านั้น ซึ่งขณะนี้กูเกิลนั้นพยายามแก้ไขช่องโหว่ที่เกิดขึ้นแล้วด้วยการเพิ่มระบบ รหัสผ่านเพื่อยืนยันตัวบุคคลก่อนการต่อโทรศัพท์ แต่ซีเคียวไซเอนซ์ระบุว่า สไกป์นั้นยังไม่มีการดำเนินการใดๆ

เจมส์ระบุว่าการออกมาชี้ช่องโหว่ในระบบโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต ครั้งนี้จะเป็นการจุดประกายให้บริษัทเหล่านี้มีความตื่นตัวกับภัยคุกคามให้ มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และหวังให้การตื่นตัวในเรื่องนี้เกิดขึ้นกับผู้บริโภคในวงกว้างเช่นกัน

ที่มา http://www.manager.co.th/Telecom/ViewNews.aspx?NewsID=9520000041590