โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 11 เมษายน 2552 08:02 น. |
หากคุณเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเพราะต้องการซื้อสินค้าสักชิ้น คุณสามารถเดินไปที่ชั้นวางของสินค้านั้นได้ด้วยตัวเอง ถ้าไม่ทราบที่ตั้ง คุณก็สามารถถามพนักงานขายได้เลยทันที แต่ถ้าเป็นโลกสรรพสินค้าในจักรวาลออนไลน์ คุณจะไปถามหาสินค้าที่ต้องการได้จากใครถ้าไม่ใช่เสิร์ชเอนจิ้น ผู้ สร้าง"ตลาดดอทคอม" ตลาดขายสินค้าออนไลน์รายใหญ่ของประเทศไทย บอกเคล็ดลับง่ายๆที่จะเปลี่ยนให้เสิร์ชเอนจิ้นกลายเป็นพนักงานขายของคุณแบบ ไม่มีค่าใช้จ่าย เชื่อว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เริ่มคิดจะขายของออนไลน์ ขณะที่คนที่เริ่มไปแล้วก็สามารถตรวจดูได้ว่า เว็บไซต์หน้าร้านของคุณนั้นยังขาดเหลือสิ่งใดไปบ้าง ในการทำให้เสิร์ชเอนจิ้นนำเสนอข้อมูลบนเว็บของคุณได้เต็มที่ เรียกว่า อ่านดีๆ งานนี้มีรวยค่ะ :-D ******* E-Commerce กับ SEM (บทความโดย ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ www.tarad.com) หากคุณต้องการหาซื้อสินค้าซักชิ้นนึง และอยากหาซื้อสินค้านี้ในช่องทางออนไลน์หรือเว็บไซต์ คุณจะหาสินค้าที่ต้องการได้อย่างไร? ผมว่าคนเกือบ 90% จะบอกว่า ก็ค้นหาข้อมูลสินค้าที่ต้องการในบริการค้นหาข้อมูลออนไลน์ หรือ Search Engine เอาสิ.! แหมเป็นวิธีที่คนเกือบทุกคนทั่วประเทศและทั่วโลก ต่างก็ใช้วิธีนี้กันหมดแหละ ซึ่งผมว่าหลายๆ คนก็คงจะเลือกใช้วิธีนี้เช่นกัน นั่นคงจะเป็นคำตอบของผู้ที่ซื้อและค้นหาข้อมูล แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ "ผู้ขาย" ของทางอินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ ก็คงอยากให้ข้อมูลสินค้าของเว็บไซต์ของคุณ ไปอยู่อันดับต้นๆ ของผลของการค้นหาในระบบ Search Engine ที่คนค้นหา "คำ" (Keyword) ที่เกี่ยวข้อง (Related) กับสินค้าของคุณ แต่การที่จะให้ข้อมูลสินค้าหรือเว็บไซต์ของคุณขึ้นไปอยู่อันดับต้นๆ ของผลของการค้นหาข้อมูลจาก Search Engine ดังๆ อย่าง Google.com หรือ Yahoo.com คงจะไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ และเป็นเรื่องบังเอิญได้บ่อยครั้งหรอกครับ มันมีวิธีการและขั้นตอนการทำให้เว็บไซต์ของคุณ ขึ้นไปเด่นเป็นสง่าอยู่ในอันดับต้นๆ ของการค้นหาได้อย่างไม่ยากเลย เรา เรียกวิธีการทำแบบนี้ว่า การตลาดผ่านการค้นหา (Search Engine Marketing) ซึ่งจะเห็นได้เลยว่า การตลาดวิธีนี้เกี่ยวข้องกับการค้าขายออนไลน์หรือ E-Commerce แทบจะ 100% เลย จาก ประสบการณ์ของผม เว็บไซต์ร้านค้าขายของใน TARAD.com ที่ผมให้เปิดให้บริการอยู่ หลายๆ เว็บไซต์ร้านส่วนใหญ่ มียอดขายมากเกิน 50% มาจากคนที่เข้ามาเว็บไซต์ของเค้า ผ่านมาทางการค้นหาข้อมูลจาก Search Engine และบางเว็บไซต์มียอดขายมากกว่า 90% ที่ลูกค้ามักจะเข้ามาซื้อสินค้าของร้านค้าของเค้าผ่านการค้นหาผ่าน Search Engine แต่หลายๆ คนมักจะถามว่า "ทำยังไงเว็บไซต์ของผม ถึงจะไปอยู่อันดับต้นๆ ของการค้นหาได้?" ของแบบนี้คงอาจจะได้มาจากโชคช่วย หรือไม่คุณก็สามารถสร้างโชคให้มันเข้ามาหาคุณได้เช่นกัน แอบสังเกตพฤติกรรมคนค้นหาสินค้าผ่านเว็บ ส่วนใหญ่คนที่จะค้นหาสินค้าเกือบ 80% มักจะค้นหาข้อมูลสินค้า จาก Search Engine และส่วนใหญ่จะใช้ ยี่ห้อ, รุ่น, สเป็ก ของสินค้าที่ต้องการหา เป็นคำในการค้นหา เช่น ผมต้องการหาซื้อ รถยนต์ BMW 323i ปี 2000 ผมก็ค้นหาด้วยคำว่า "BMW 323i ปี 2000" ซึ่งจะเห็นว่าจะเป็นการค้นหาด้วย ยี่ห้อ รุ่น ซะส่วนใหญ่ ในบางกรณี จะเริ่มมีการระบุตำแหน่งหรือพื้นที่ที่ต้องการซื้อเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อระบุให้แคบลงมาว่า ต้องการหาข้อมูลสินค้านี้ในพื้นที่ นั้นๆ เช่น ผมต้องการหาซื้อ เฟอร์นิเจอร์ และผมอยู่เชียงใหม่ ผมก็จะค้นหาคำว่า "เฟอร์นิเจอร์ เชียงใหม่" นี้คือพฤติกรรมโดยทั่วไปของคนที่มักจะค้นหาสินค้าทางออนไลน์ เทคนิคง่ายๆ บ้านๆ ที่จะทำให้เว็บไซต์คุณติดในการค้นหา ทีนี้พอเรารู้แล้วว่าคนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมในการค้นหา ข้อมูลสินค้าผ่านเว็บไซต์อย่างไร เราลองมาดูว่าจะทำยังไงให้เว็บไซต์ของเรา มีโอกาสที่จะไปติดอยู่ในผลลัพธ์การค้นหาของ Search Engine ได้บ้าง ผมคงไม่ลงรายละเอียดเชิงเทคนิคว่าเราจะทำยังไงให้เว็บเราติดการค้นหา ของ Search Engine เพราะมันอาจจะต้องเล่ายาวมากๆ และอาจจะต้องมีขั้นตอนในเชิงเทคนิคมากมายที่คุณจะต้องไปปรับแต่งเว็บไซต์ของ คุณ แต่ ผมจะแนะนำเทคนิคง่ายๆ สำหรับท่านที่มีเว็บไซต์ ไว้ขายสินค้าของตัวเอง ว่าจะทำยังไง ถึงทำให้เว็บไซต์ของคุณ ติดอยู่ในผลลัพธ์การค้นหาผ่านระบบ Search Engine ครับ 5 วิธีการง่ายๆ เพิ่มโอกาสเว็บไซต์ติด Search Engine 1.ในหน้าเว็บไซต์ สินค้าของคุณ ควรจะมี ชื่อสินค้า ยี่ห้อ รุ่น อยู่ในหน้าเว็บไซต์ของคุณอย่างชัดเจน และถูกตำแหน่ง ซึ่งตำแหน่งที่คุณจะใส่ได้แก่ ด้านบนสุดของหน้าเว็บไซต์ (Title Page) | |||||
3. หน้าเว็บไซต์สินค้าของคุณ "ไม่ควรมีข้อมูลสินค้าเพียงไม่กี่ประโยค และก็ราคาเท่านั้น" เพราะจะทำให้ระบบค้นหาข้อมูลหรือ Search Engine คิดว่าข้อมูลของเว็บไซต์ของคุณน้อยเกินไป ซึ่งนั้นหมายถึงโอกาสที่จะไปติดอันดับต้นๆ ก็น้อยตามลงไปด้วย ในทางที่ถูกต้อง คุณควรจะให้รายละเอียดข้อมูลของสินค้ามากและครบถ้วนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการให้ข้อมูลที่มากเพียงพอ เช่น ข้อมูลสเป็กรายละเอียดสินค้าที่ครบถ้วน (ภายในเนื้อหาที่ใส่ลงไป ก็อย่าลืมทรอดแทรก ยี่ห้อ สินค้า และรุ่นลงไปด้วย) นอกจากจะทำให้คนที่เข้าซื้อสินค้าของคุณ อ่านและเข้าใจในตัวสินค้าแล้ว ยังช่วยทำให้เพิ่มโอกาสในการทำให้ Search Engin ค้นหาเว็บไซต์คุณเจอได้เช่นกัน 4. หากคุณต้องการเน้นขายคนในพื้นที่เดียวกับคุณเช่น ขายคนในจังหวัด ภาค หรืออำเภอ การใส่ข้อมูลที่เป็นพื้นที่ลงไปในเว็บไซต์ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เราติดอยู่ ในอันดับต้น ๆ หาคนค้นหาผ่าน ชื่อจังหวัดลงไป พร้อมสินค้า | |||||
ทั้ง 5 วิธีนี้ เป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้เองง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคการพัฒนาเว็บไซต์อะไรมากมาย เพียงแต่อาศัยการ เขียนและการวางข้อมูลลงไปในหน้าเว็บไซต์ที่มีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ครับ ซึ่งจริงๆ แล้วมันจะมีเทคนิคและวิธีการเชิงลึกมากกว่านี้เยอะ เอาเป็นว่าหากใครสนใจ ลองไปศึกษาเพิ่มเติมได้ฟรีๆ ที่ www.pawoot.com ผมมีบทความสำหรับเทคนิคการทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Search Engine Marketing ไว้ให้คุณสามารถไปศึกษาต่อเองได้เลย หรือจะลองเข้าไปที่ www.SEM.or.th ต้องบอกว่า ความรู้เหล่านี้เป็นเรื่องที่คนทำเว็บไซต์และคนค้าขายออนไลน์ควรศึกษา และติดตามอยู่ตลอดเวลา เพราะนั้นหมายถึง โอกาสการเพิ่มยอดขาย และเพิ่มคนเข้าเว็บไซต์ได้ง่ายกว่าวิธีอื่นๆ ยังไงก็ขอให้ลองทำดูนะครับ เพราะมันไม่ยากเลย Pawoot P. เว็บไซต์ของชมรม Search Engine Marketing ของไทย ที่มีเว็บบอร์ด และข้อมูลเกี่ยวกับการทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Search Engine มากมาย ที่มา http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9520000041184 |