ASUS P835 ถือว่าเป็นเครื่อง PDA Phone รุ่น Top ของทาง ASUS ที่ออกมาเรียกกระแสตลาด PDA Phone ในช่วงต้นปีให้กลับมาตื่นเต้นน่าสนใจอีกครั้ง ซึ่งก็ได้เปิดตัวโชซืตัวจริงครั้งแรกไปเรียบร้อยแล้วในงาน ComMart 2009 ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งมาพร้อมกับค่าตัวที่เปิดมาที่ 24,900 บาท พร้อมของแถมคือ โปรแกรมภาษาไทย Thai-G +แผนที่ของ Garmin Mobile XT+ หูฟัง Bluetooth และ Memory Card อีก 2 GB ซึ่งหากมองดูแล้วก็ถือว่า ASUS P835 เปิดตัวมาในราคาที่ไม่โหดร้ายนัก ซึ่งแลกกับ Spec เครื่องที่ค่อนข้างแรง ทำให้หลายๆคนที่กำลังจะรอซื้อเครื่อง PDA Phone แบบรุ่นใหญ่มีต้องหยุดชะงักหันมามองเจ้า P835 รุ่นนี้เหมือนกัน
หากเทียบรุ่นแล้ว ASUS P835 รุ่นนี้ถือว่า Spec เทียบรุ่นได้พอๆกับ HTC Touch HD เลยทีเดียวแต่ว่าราคาจะต่ำกว่า แต่เชื่อว่าทาง HTC คงจะมีไม้เด็ดงัดมาสู้ในเครื่องรุ่น HTC Touch Diamond 2 อย่างแน่นอน ซึ่งดูจากรูปการณ์แล้วผมคิดว่า HTC Touch Diamond 2 น่าจะเปิดตัวในราคาไม่แรงเช่นกัน วันนี้เลยขอนำภาพจากเว็บต่างประเทศที่เค้าแกะกล่อง ASUS P835 รุ่นใหม่นี้มาฝากให้ชมกันเสียหน่อยครับ ตามมาดูกันเลยครับ
จุดเด่นของ ASUS P835 รุ่นใหม่นี้ เท่าที่ผมนั่งไล่ดูก็จะมีดังนี้
1. หน้าจอ 800x480 แบบ WVGA
2. มี Internal Memory ที่ 4 GB
3. มีหน่วยความจำ ROM 256 MB และ RAM 288 MB
4. การเชื่อมต่อครบครัน WiFi / Bluetooth 2.0+EDR, USB 2.0 และ GPS
5. กล้อง 5 ล้านพิกเซล แบบ Auto Focus
6. มี Track ball ด้านหน้า
7. Wi-Fi ในเครื่องสามารถใช้งานเป็น Access Point ได้ สำหรับให้เครื่องอื่นๆมาร่วมต่อเชื่อมเพื่อเป็น Gateway ได้มากถึง 10 อุปกรณ์
นอนแอ่งแม้งอยู่ในกล่องเตรียมอวดโฉมแล้วครับ
ตัว เครื่องรุ่นนี้ออกแบบตามสมัยนิยม คือแนวเรียบๆไม่ค่อยเน้นความโค้งมน หน้าจอแบบราบเรียบไม่มีขอบให้นิ้วสะดุด โดยปุ่มต่างๆจะพยายามคงไว้เท่าที่จำเป็นกับการใช้งานเท่านั้น หุ่นเครื่องรุ่นนี้ หากลองเอามือปิดด้านล่างไว้ผมเชื่อว่าหลายๆคนต้องเดาว่ามันคือ Samsung Omnia แน่ๆ เพราะส่วนบริเวณด้านบนมันคล้ายกันเหลือเกิน ยุคนี้ก็แบบนี้หละครับ ผสมกันไป ผสมกันมา เดี๋ยวก็ออกมาเป็นแบบฉบับตัวเอง
ตรงส่วนบริเวณด้านบนจะมีกล้อง ด้านหน้าที่ความละเอียด 3 แสนพิกเซล พร้อมกับ Light Sensor
บริเวณขอบรอบตัวด้านบนเป็นสแตนเลสสีเงาๆ คล้ายๆกับ iPhone และ Omnia
ในส่วนด้านล่างนั้น ปุ่มต่างๆถูกเปลี่ยนไปเยอะ ปุ่ม 5 ทิศทางแปรสภาพกลายเป็นปุ่มในแบบ Track Ball และปุ่มรับสาย/ วางสาย วางประกบด้านข้าง เสริมความหรูด้วยพลาสติกลายหนังด้านล่าง ลดความแข็งในการดีไซด์ไปได้มาก
พลิกบริเวณ ด้านหลังจะเป็นพลาสติกในส่วนด้านบน และส่วนด้านล่าง ต้องยอมรับครับว่าหรูมากเพราะเป็น สแตนเลสแบบบรัช ทำให้เครื่องดูหรูหรามีราคามากขึ้น
กล้องในเครื่องรุ่นนี้ให้มาที่ 5 ล้านพิกเซล พร้อม Auto Focus ส่วนรูด้านล่างนั้นก็คือลำโพงของตัวเครื่องนั่นเอง
ออกแบบได้ดูเนี๊ยบมากจริงๆ รอยต่อต่างๆสนิทแนบกันดีมากครับ
เปิดฝาหลังมาจะพบแบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้ โดยฝาหลังจะเป็นสแตนเลสทั้งชิ้น ไม่มีพลาสติกด้านในแต่อย่างใด
แบตในเครื่องรุ่นนี้ให้มาที่ 1100 mAh ซึ่งหากจะว่าน้อยก็ไม่เชิง เพราะเค้าทดสอบกันมาแล้วว่าสามารถใช้งานได้มากถึง 1.5 วัน ในสภาวะการใช้งานปกติ แต่หากใช้ต่อเป็น Access Point ให้กับเครื่องอื่นๆ เพื่อใช้เล่น Net จะสามารถเปิดต่อเนื่องได้ประมาณ 3.5 ชม
SIM Card ถูกซ่อนอยู่ด้านใน โดยจะต้องถอดแบตเตอรี่ออกก่อน ซึ่งก็ถือว่าเป็นปกติของเครื่องรุ่นทั่วๆไป ดีที่ไม่เอา memory card ไว้ใต้แบตเตอรี่ไม่งั้นต้องถอดแบตออกก่อนอีก
บริเวณด้านข้างทางขวามือของตัวเครื่องจะพบ ช่องเสียบ Micro Sd และปุ่มสำหรับการถ่ายภาพ ส่วนล่างสุดเป็นช่องเก็บ Stylus
มีฝาปิดกันฝุ่นให้อย่างดี ตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างบางครับ
บริเวณด้านล่างใช้การเชื่อมต่อแบบ mini USB รองรับ USB 2.0 ถัดมาเป็นปุ่ม Reset และ ช่องไมโครโฟน
บริเวณทางขวามือเป็นปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Hold ตามแบบฉบับของ ASUS
มีแต่ของ ASUS นี่แหละที่ยังทำปุ่ม Hold อยู่ ซึ่งผมว่ามีประโยชน์ดีครับ
สไตรัสแบบเสาอากาศ ยืดหดได้ แต่ผมไม่ค่อยชอบนะผมชอบแบบ แท่งแบบไม่ต้องคอยยืดเข้าออกมากกว่า
ชุดหูฟัง Small Talk ที่ให้มาเป็นแบบ mini USB
อุปกรณ์ต่างๆที่ให้มาในกล่อง พร้อมคู่มือแบบสี่สีทั้งเล่ม
หน้าจอสามารถ Lock ได้แบบ iPhone ต้องกดปุ่มเปิดค้างไว้สักระยะเพื่อเข้าสู่หน้าจอ unlock
หน้าจอรุ่นนี้ 3.5 นิ้วแบบ WVGA ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องระดับ Top ในยุคแบบนี้
ในเครื่องรุ่นนี้จะเหลือพื้นที่การใช้งานทางฝั่ง Storage ที่ 57.62 ซึ่งเครื่องที่จำหน่ายในเมืองไทยอาจจะต่างกันไปเพราะขึ้นอยู่กับ ROM ของแต่ละประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่อง Memory ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่เพราะว่ามันมี Memory ภายในให้มาอีก 4 GB หากไม่สะใจอีกก็ยังเหลือใน Memory Card ให้ใช้อีกกันตามความจุที่ซื้อมา
ASUS Glide interface
จุดขายแปลกใหม่ของเครื่องรุ่นนี้คือมันสามารถใช้งานเป็น Access Point ได้ โดยสามารถกระจาย Net ให้กับเครื่องลูกข่ายอื่นๆ อย่าง Notebook หรือ PDA ได้มากถึง 10 เครื่อง เพราะเนื่องจากเครื่องรุ่นนี้มันรองรับการใช้งานในแบบ HSPA 7.2Mbps ตัวมันเองสามารถเชื่อมต่อกับการส่งถ่าย Data ผ่านทางโครงข่าย 3G ได้ เร็วอยู่แล้ว เลยใช้ประโยชน์จุดนี้เป็นตัวกลางให้เครื่องอื่นๆเข้ามาแชร์ในด้าน อินเตอร์เน็ต จากตัวมันอีกที ว่าแต่บ้านเราคงไม่ได้ประโยชน์มันเต็มที่แน่นอน
กล้อง 5 ล้านพิกเซล พร้อมสามารถระบุพิกัดของสถานที่ได้ด้วย ส่วนคุณภาพของภาพถ่ายลองดูได้จากภาพด้านล่างเลยครับ
สำหรับการเปิดกล่องในครั้งนี้เราคงได้เห็นความน่าใช้ของเครื่อง ASUS P835 รุ่น นี้มากขึ้นอีกเยอะ อย่างน้อยก็คือเรื่องความสวยงามในการออกแบบที่ดูใกล้ๆแล้ว มันสวยมากกว่าในตอนแรกเสียอีก เครื่องรุ่นนี้ถือว่าเป็นเครื่องที่ให้มาค่อนข้างครบดีครับ เป็นตัวเลือกใหม่ที่ราคาผมว่าไม่ค่อยแรงเท่าไรนัก ส่วนค่ายอื่นๆที่กำลังจะทยอยออกมา ผมเชื่อว่าต้องมีไม้เด็ดเอามางัดกับเจ้า ASUS P835 นี้อย่างแน่นอน ปีนี้ผมเชื่อว่าเราน่าจะได้เครื่องที่ Spec แรงๆ แต่ราคาไม่แรงตามเครื่องเหมือนปีที่ผ่านๆมาอย่างแน่นอนครับ
http://www.mobile01.com/newsdetail.php?id=7226
ที่มา mrpalm.com