
การ ที่จะเลือกใช้ยารักษาสิวนั้นมีปัจจัยมากมายที่ควรจะต้องพิจารณาก่อนการ ตัดสินใจ ผลิตภัณฑ์ที่ขายอยู่ตามเคาน์เตอร์เป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมในหมู่ วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสิวก็เช่นเดียวกัน ข้อเท็จจริงประการหนึ่งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่ขายอยู่ตามเคาน์เตอร์ คือยาที่ใช้ทาภายนอกจะมีส่วนประกอบของ Benzoyl Peroxide ซึ่งหาได้ง่ายและราคาไม่แพง และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรง และไม่มีปัญหาในการใช้ระยะยาว
benzoyl peroxide นั้นใช้ได้ผลดีมากในการรักษาสิวน้อย-ปานกลาง ยาตัวนี้ไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งจากแพทย์สามารถซื้อใช้เองได้ มีความเข้มข้นตั้งแต่ 2.5% 5% และ 10% หากต้องการใช้ที่ความเข้มข้นที่มากกว่า 10% จะต้องใช้ใบสั่งจากแพทย์ การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่า ที่ความเข้มข้นของ benzoyl peroxide 2.5% จะสามารถจัดการกับสิวโดยที่เกิดการระคายเคืองน้อย ดังนั้นหากต้องการใช้ benzoyl peroxide เพื่อรักษาสิว จึงควรเริ่มที่ความเข้มข้นต่ำ ๆ ก่อน (เช่น 2.5%)
ถึงอย่างนั้นก็ดี การที่จะพิจารณาถึงผลข้างเคียงก็เป็นสิ่งที่ควรทำ การใช้ benzoyl peroxide เป็น เวลานานหลายปีพบว่ามีผลข้างเคียงเพียงแค่ทำให้ผิวที่ได้รับยาหยาบกระด้าง บริษัทผู้ผลิตยานี้จึงแนะนำว่า ในกรณีที่ผู้ใช้พบว่ามีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น ควรลดปริมาณการใช้ หรือจำนวนครั้งที่ใช้ การใช้ benzoyl peroxide พบว่าอาจมีผื่นแพ้ที่ผิวหนังเกิดขึ้นได้ในบางกรณี ซึ่งเมื่อเกิดอาการดังกล่าวแล้วควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้
ปัจจุบัน ได้มีการวิจัยเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลการรักษาสิวที่ได้จากยาตัวนี้ว่ามีผลข้าง เคียงอื่น ๆ เกิดขึ้นหรือไม่ มีอันตรายใด ๆ ในการใช้ benzoyl peroxide รักษาสิวระยะยาวหรือไม่ ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ยาควรทราบ จึงได้มีการทดสอบระยะเวลาในการใช้ยา ความไวของผิวต่อยา
Benzoyl peroxide ทำงานอย่างไร
ก่อนที่จะลงรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานของ benzoyl peroxide ว่าออกฤทธิ์อย่างไรในการป้องกันการเกิดสิว สิ่งที่ควรรู้เข้าใจก็คือ ขั้นตอนการเกิดสิว - - แบคทีเรียตัวหนึ่งที่ชื่อว่า P.acne เป็น แบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังของมนุษย์ และเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว การที่แบคทีเรียอาศัยอยู่บนผิวหนังก็จะเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็วและเมื่อมี การอุดตันของรูขุมขน แบคทีเรียก็จะไปกินน้ำมันที่อยู่ในรูขุมขนนั้น แต่แบคทีเรียนี้ไม่อาจมีชีวิตอยู่ท่ามกลางออกซิเจน การทำงานของ benzoyl peroxide คือการปล่อยสารออกซิเจนเข้าไปในรูขุมขน ดังนั้นแบคทีเรียจึงถูกทำลายจากการที่ได้รับออกซิเจน
ผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น
-ผิวแห้ง - - หากใช้ที่ความเข้มข้น 5% หรือ 10% จะทำให้ผิวแห้ง จึงควรเริ่มใช้ที่ความเข้มข้น 2.5% ก่อน
-ระคายเคือง - - หากพบว่าเกิดความระคายเคือง ให้ลดความถี่ในการใช้ลง หากระคายเคืองมากแม้ว่าจะลดความถี่ลงแล้วก็ตาม ควรหยุดใช้ยา
-แพ้ - - หากมีอาการแพ้ benzoyl peroxide ควรหยุดใช้ยา และปรึกษาแพทย์เพื่อใช้วิธีอื่นในการรักษาสิว
-ฟอกขาว - - benzoyl peroxide นั้นสามารถฟอกผิวให้ขาวได้ ควรระมัดระวังไม่ให้สัมผัสกับเส้นผม เพราะจะทำให้สีเปลี่ยนถาวร
-ผิวจะ เหมือนกับเราเผชิญกับแสงแดดโดยไม่ได้ป้องกัน ผลก็คือผิวจะแดงจากการทำปฏิกิริยากับแสงแดด ดังที่ทราบกันทั่วไปว่าการเผชิญกับแสงแดดบ่อย ๆ เป็นเหตุให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่าการใช้ benzoyl peroxide บ่อย ๆ มาก ๆ ในการรักษาสิว ก็อาจให้ผลข้างเคียงดังกล่าวได้ ดังนั้นระหว่างการใช้ยานี้ จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดด้วย
-ในช่วงของการใช้ใน 3 อาทิตย์แรกผิวหน้าเราอาจจะระคายเคืองเนื่องจากยาแต่ก็จะดีขึ้นหลังจากนั้น
วิธีการใช้ BP ให้ได้ผลที่สุด
1.ในกรณีที่คนใช้ทาก่อนล้างหน้า ควรทาทิ้งไว้อย่างน้อยสุด 1 ชั่วโมง
2.ก่อนหรือหลัง 1 ชั่วโมงไม่ควรทาอะไรบำรุงเพราะจะทำให้ BP ทำงานไม่เต็มที่
ถ้าเห็นว่าบทความนี้ประโยชน์และนำไปใช้ในเวบหรือ blog ส่วนตัวกรุณาทำลิงค์มาที่เราด้วยนะครับ
เรียบเรียงและแปลโดย Acnethai.com
source : http://acnethai.com/content/view/179/42/